UBIQUITOUS คือ
การนำคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต รูป ลักษณะของคอมพิวเตอร์จะแฝงอยู่ในรูปของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น เครื่องแต่งกาย เครื่องมือสื่อสาร ยานพาหนะเครื่องอำนวยความสะดวกในบ้าน และฝังตัวอยู่ในสรรพสิ่งรอบตัวเรา สารสนเทศที่ได้จากการประมวลผล สามารถเชื่อมโยงซึ่งกันและกันระหว่างอุปกรณ์ผ่านระบบเครือข่ายความเร็วสูง
ยูบิควิตัสเทคโนโลยี (Ubiquitous technology)
Ubiquitous ( ยูบิควิตัส ) เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า อยู่ในทุกแห่ง หรือ มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง Mark Weiser (มาร์ค ไวเซอร์) แห่งศูนย์วิจัย Palo Alto ของบริษัท Xerox ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำนิยาม Ubiquitous Computing (ยูบิควิตัสคอมพิวติง) ไว้ว่า หมายถึงกระบวนการบูรณาการ (integrating) คอมพิวเตอร์เข้ากับ Physical World อย่างไร้ของเขต (seamlessly) การพัฒนาสิ่งเหล่านี้ทำให้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน Ubiquitous Computing รวมถึงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ประเภท microprocessors โทรศัพท์เคลื่อนที่ (mobile phones) กล้องดิจิตอล และอุปกรณ์อื่นๆ หมายความว่าเราสามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศได้ทุกหนทุกแห่งสภาพแวดล้อมที่ สามารถใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่ว่าจะอยู่ในที่แห่งใดUbiquitous Learning คือ การจัดการเรียนการสอนหรือบทเรียนสำเร็จรูป (Instruction Package) ที่นำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีเครือข่ายทั้งแบบใช้ สายและไร้สาย รวมไปถึงพวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการประมวลผลแบบไร้ขอบเขต ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลา ที่จริงแล้ว น่าจะมาจากคำว่า Ubiquitous e-learning แต่ e- ได้ถูกตัดหายไป เนื่องจากเป็นการเรียนรู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ซึ่งเกี่ยวพันธ์กับวิธีการเรียนหลากหลายแบบรวมกัน ทั้งแบบดังเดิมและการใช้เทคโนโลยีด้านสารสนเทศด้วย
ในระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้การติดต่อสื่อสารระหว่างครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูง ฯลฯที่อยู่คนละจังหวัดหรือแม้แต่คนละทวีปได้กลายมาเป็นเรื่องที่สะดวก รวดเร็ว สมกับคำโฆษณาของการสื่อสารแห่งประเทศไทยจริงๆ เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทุกที่ทุกเวลา ลองมาคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากมนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกับบ้าน รถยนต์ หรือสิ่งของอื่นๆได้ สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องที่ดูแปลกๆราวกับเป็นโลกแห่งจินตนาการหรือเรื่องราวใน นวนิยายวิทยาศาสตร์ แต่เรื่องดังกล่าวได้ปรากฏขึ้นแล้วจริงๆบนโลกดิจิทอลใบนี้ ตัวอย่างเช่นที่ประเทศญี่ปุ่น บ้านพร้อมจะเปิดไฟสว่างไสวให้การต้อนรับแก่ผู้เป็นเจ้าของทันทีทันใดที่ย่าง ก้าวเข้าสู่ประตูบ้านและเครื่องปรับอากาศก็จะเริ่มทำงานในอุณหภูมิที่เจ้า ของบ้านพึงพอใจ รถยนต์จะดับเครื่องโดยอัตโนมัติทันทีผู้ขับขี่นำรถเข้าไป
ใกล้ รถคันอื่น ความสะดวกสบายทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนี้มิใช่เป็นเพียงเรื่องของโครงการ ทดลองแต่เป็นสิ่งปกติที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมิใช่น้อยใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นสืบเนื่องมาจากการพัฒนาก้าวไกลของเทคโนโลยีในระดับสูงที่ เรียกกันว่า “เทคโนโลยียูบิควิตัส” (Ubiquitous technology) และสิ่งนี้เองกำลังเป็นแนวโน้มแห่งโลกอนาคตที่จะเกิดขึ้นในอีกหลายสังคม สังคมใหม่ที่มีชื่อว่า “สังคมยูบิควิตัส”
การที่สังคมจะพัฒนาเข้าสู่สังคมยูบิคได้ตามความมุ่งหวังหรือไม่นั้นขึ้นกับ องค์ประกอบของการมีเทคโนโลยีระดับสูงที่แพร่หลาย จำนวนประชากรมีขนาดใหญ่และมีฐานะทางเศรษฐกิจในการเข้าถึงเทคโนโลยี รวมทั้งมีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นๆด้วย ปัจจุบันในสังคมญี่ปุ่นมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเคไตนี้เป็นจำนวน มากกว่า 86 ล้านคน จากจำนวน
ประชากรทั้งหมด 127 ล้านคน และในจำนวนนี้ร้อยละ 89 ใช้เคไตสำหรับอินเตอร์เน็ตโดเป็นประจำทุกวันโดยใช้ในการรับ-ส่งอี-เมล์การ อ่านข่าวสาร การเช็คตารางรถไฟหรือรถโดยสารประจำทาง นอกจากนี้ยังใช้ในการเล่นเกมส์ ดูหนังฟังเพลงฯลฯ พวกเขาเพลิดเพลินกับการใช้เคไตและเทคโนโลยีใหม่ๆแม้ว่าจะไม่มีความรู้เกี่ยว กับเทคโนโลยีที่สลับซับซ้อนเท่าใดนักแต่พวกเขาก็รู้ว่าจะใช้สิ่งประดิษฐ์ เหล่านั้นอย่างไรเพราะธุรกิจได้มาช่วยทำให้การใช้สะดวกง่ายขึ้นประกอบกับทาง ราชการห้างร้านก็พยายามเผยแพร่ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการใช้สิ่งใหม่ๆ ทางภาครัฐบาลก็ได้ให้การลงทุนพัฒนาเครือข่ายให้ครอบคลุมและสนับสนุนการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยียูบิควิตัสอย่างต่อเนื่องโดยมีศูนย์กลางที่มหาวิทยาลัย โตเกียว ด้านภาคเอกชนธุรกิจรายใหญ่เช่นบริษัทพานาโซนิค โซนี่โตโยต้า ฟูจิซึฯลฯต่างก็มีศูนย์วิจัยของตนเองและได้ดำเนินการศึกษาพัฒนาในเรื่องของ เทคโนโลยียูบิควิตัสกันมาเป็นเวลาหลายปีแล้วเช่นที่บริษัทโตโยต้าได้พัฒนา เครื่องนำทาง (navigator) ระบบการเตือนการหลับเวลาขับยานยนต์และบ้านยูบิควิตัสที่มีชื่อว่า พีเอพีไอ (PAPI)http://www.toyotahome.co.jp/papi ในบ้านหลังนี้อุณหภูมิจะมีการปรับเองตามความเหมาะสม เสียงเพลงจะดังขึ้นเบาๆยามตื่นนอน ไฟฟ้าในห้องต่างๆจะเปิด-ปิดโดยอัตโนมัติ และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะเกิดในสังคมยูบิควิตัส ณที่ซึ่งเทคโนโลยีการสื่อสารมีในทุกที่ทุกเวลา คำว่ายูบิควิตัสจึงนับว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ช่วยให้เราเห็นถึงโลก แห่งอนาคตที่สังคมมนุษย์ชาติกำลังเดินทางไปสู่สังคมแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น